วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2550

เรื่องสั้น - แหวนหนึ่งวงในร้านกาแฟ

เรื่องของภาวิดา

ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนทุกครั้งที่ฉันเดินผ่าน แต่ตอนนี้กลับเงียบเหงา มีคนนั่งอยู่เพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น ก็ดีเพราะฉันอยากหาร้านเงียบๆนั่ง ฉันจึงเดินเข้าไปในร้าน เลือกมุมสงบนั่งในการอ่านหนังสือสักเล่มเพื่อปลดปล่อยความคิด
หลังจากฉันเลือกที่นั่งได้แล้ว ฉันเหลือบเห็นชายคนหนึ่งนั่งที่โต๊ะห่างจากฉันไปไม่กี่เมตร มองดูผู้คนเดินผ่านไปมานอกร้านด้วยสายตาเหมอลอย บนโต๊ะที่เขานั่งมีถ้วยกาแฟส่งไอร้อนกรุ่น และกล่องใส่แหวนสีแดงเข้มที่เปิดค้างไว้ แสงแดดส่องกระทบแหวนวงนั้นเป็นประกาย ทำให้ฉันรู้ทันทีว่าแหวนวงนั้นเป็นแหวนทอง
“สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ” เสียงนุ่มนวลจากพนักงานหนุ่มหน้าตาดี ทำให้ฉันละสายตาจากของสิ่งนั้นทันที
“อืม..ขอเอกซ์เปรสโซ่ ไม่ใส่น้ำตาลถ้วยนึงค่ะ” ฉันตอบ
“น้อง เช็คบิลด้วย” เสียงทุ้มกังวานจากชายเจ้าของแหวน
“รอสักครู่นะครับ คุณผู้หญิง” หลังจากที่พนักงานพูดจบ เขาก็เดินไปที่โต๊ะนั้นทันที และฉันจึงหยิบหนังสือเล่มโปรดจากกระเป๋าถือของฉันขึ้นมาอ่าน
หลังจากที่ฉันใช้สมาธิในการอ่านหนังสือประมาณสองหน้า พนักงานเข้ามาเสิร์ฟกาแฟที่ฉันสั่ง ทำให้ฉันละสายตาจากหนังสือ และหลังจากที่พนักงานเดินจากไป ฉันเหลือบเห็นกล่องแหวนยังวางอยู่ที่โต๊ะในสภาพเดิม แต่ชายที่นั่งอยู่ตรงนั้นหายไปแล้ว ฉันเหลียวมองซ้าย ขวา และมองออกไปนอกร้านพยายามมองหาเขา แต่เขาหายไปแล้ว
ด้วยความหวังดี ฉันวางหนังสือเล่มโปรดลงบนโต๊ะ แล้วเดินไปที่โต๊ะตัวที่ชายเสียงทุ้มกังวานเคยนั่ง แล้วหยิบกล่องใส่แหวนนั่นเพื่อนำไปฝากไว้กับพนักงานร้าน เผื่อชายคนนั้นกลับมาเอาแหวนคืน แต่หลังจากที่มองแหวนนั่น ฉันคิดว่ามันคงมีราคา เพราะลวดลายบนแหวนมันช่างสวยงามเหลือเกิน และฉันอยากเป็นเจ้าของมัน
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะของฉัน หลังจากใช้ความคิดสักครู่หนึ่ง ฉันมองหาพนักงาน แต่ไม่พบ ฉันมองไปรอบๆ ปรากฏว่า มีเพียงฉันคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในร้าน และด้วยความต้องการที่จะเป็นเจ้าของแหวนวงนี้ ฉันจึงปิดฝากล่องแหวนแล้วใส่มันลงในกระเป๋าถือของฉัน
ฉันหยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาอีกครั้ง เปิดหน้าเดิมที่อ่านค้างเอาไว้ด้วยความดีใจ
วันนี้ฉันได้แหวนทองหนึ่งวง เป็นของแถมจากกาแฟหนึ่งถ้วย

เรื่องของพิชิตชัย

ระหว่างการเดินทาง ผมเลือกร้านกาแฟแห่งหนึ่งเพื่อนั่งพักสงบจิตใจและฆ่าเวลา วันนี้ผมมีนัดเสนอแบบและลวดลายแหวนทองกับเจ้าของบริษัทขายเครื่องประดับรายใหญ่แห่งหนึ่ง ผมตื่นเต้นมาก แต่ผมกลัวจะประหม่าตอนนำเสนองาน ผมคิดว่าการนั่งพักจิบกาแฟสักถ้วย คงจะดีไม่น้อย
ผมเลือกที่นั่งได้แล้ว ผมเลือกที่จะหันหลังให้ประตูทางเข้าเพื่อทำสมาธิ ผมเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งกาแฟร้อนๆหนึ่งถ้วย พอพนักงานนำกาแฟมาเสิร์ฟ ผมต้องการเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง จึงชวนพนักงานคุยอย่างเป็นกันเอง
“ร้านนี้ เงียบอย่างนี้ทุกวันหรือเปล่า” ผมถาม
“ก็เงียบเฉพาะตอนสายครับ จากเที่ยงจนถึงเย็น คนเข้าร้านแทบจะตลอดครับ” พนักงานหนุ่มน้อยตอบเสียงด้วยนุ่มนวลและท่าทางสำรวม
ผมจึงหยิบกล่องแหวนสีแดงจากกระเป๋าเสื้อนอก เปิดมันออก เพื่อแสดงแหวนทองที่ผมออกแบบให้หนุ่มน้อยดู พร้อมถามเพื่อขอความเห็น
“น้องคิดว่ามันสวยหรือเปล่า”
“สวยครับ พี่ซื้อให้แฟนหรือครับ” หนุ่มน้อยตอบพร้อมกับรอยยิ้ม
“อ๋อ เปล่าหรอก นี่เป็นแหวนทองตัวอย่างที่พี่ออกแบบเอง อยากขอความคิดเห็นจากน้องเท่านั้นเอง” ผมตอบด้วยความภาคภูมิใจ
“สวยครับ แล้วทำจากทองจริงหรือเปล่าครับ” หนุ่มน้อยถามด้วยความสนใจ
“ไม่หรอก แค่แต่งสีให้มันเหมือนของจริงเท่านั้นเอง พี่จะนำไปเสนอลูกค้า” ผมตอบ
เราสองคนพูดคุยกันได้สักพัก หนุ่มน้อยก็ขอตัวไปทำงานต่อ ครู่ใหญ่ต่อมาผมได้ยินเสียงคนเข้ามาในร้าน ผมไม่สนใจ ผมนั่งมองออกไปนอกร้านดูผู้คนและทำใจให้สงบ หนุ่มน้อยเดินออกมาต้อนรับลูกค้า ผมมองดูนาฬิกา ใกล้ถึงเวลานัดแล้ว ผมจึงเรียกหนุ่มน้อยเก็บเงินค่ากาแฟแล้วรีบลุกจากโต๊ะไป
ไม่ไกลนักจากร้านกาแฟ เป็นสถานที่นัดของผมกับเจ้าของบริษัทขายเครื่องประดับ ผมมองดูนาฬิกาผมมาถึงก่อนเวลานัดประมาณสิบนาที ผมล้วงกระเป๋าเสื้อนอก หายไปแล้วกล่องที่ใส่แหวนผลงานของผมหายไป ผมนึกได้ว่าผมลืมทิ้งไว้ที่ร้านกาแฟ ผมหันหลังกลับแล้วรีบวิ่งไป
ดีที่ผมมาถึงก่อนเวลานัดจึงมีเวลาพอที่จะกลับไปที่ร้านกาแฟอีกรอบ

เรื่องของต้น

ในตอนสายของวันเสาร์ ต้นมีนัดกับคนรักของเขา เพื่อจะไปดูหนังด้วยกัน เขาเลือกที่จะไปก่อนเวลานัด โดยเขาคิดว่าอย่างน้อยก็เป็นกระทำที่สมควรของผู้มีการศึกษาพึงมี ระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปรับคนรักของเขานั้น เขาหยุดมองดูร้านกาแฟที่ตั้งอยู่หัวมุมถนนแห่งหนึ่ง ต้นใฝ่ฝันว่าหลังจากที่เรียนจบแล้ว เขาอยากมีร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ เป็นของตัวเองสักแห่ง และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับคนที่เขารัก
ต้นยืนมองดูบรรยากาศภายในร้านด้วยตั้งใจ เขามองเห็นโต๊ะที่จัดอย่างเรียบร้อย กระจกที่ใสสะอาด และการตกแต่งร้าน มันช่างเย้ายวนลูกค้าเพื่อที่เข้ามาใช้บริการ พนักงานที่ดูเป็นกันเอง เขาสังเกตเห็นจากการพูดคุยระหว่างพนักงานที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาและลูกค้าคนหนึ่งที่หยิบกล่องแหวนออกจากกระเป๋าเสื้อนอกและโชว์แหวนให้พนักงานคนนั้นดู แล้วต้นก็เข้าสู่ภวังค์ของตัวเขาเอง และวาดภาพร้านกาแฟของเขาเองในจินตนาการ
ไม่นานนักต้นก็เห็นผู้หญิงวัยทำงานคนหนึ่งสะพายกระเป๋าถือเดินเข้าไปในร้านผู้หญิงคนนั้นสั่งกาแฟแล้วนั่งอ่านหนังสือ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของมือถือต้นดังขึ้น เขาละสายตาจากร้านกาแฟมาสนใจโทรศัพท์ของตัวเอง
หลังจากที่เขาใช้เวลาในการคุยโทรศัพท์พอสมควร เขาดูนาฬิกา เขาคิดว่าคงสมควรแก่เวลาที่เขาจะไปพบคนรักของเขาแล้ว ก่อนที่เขาจะไป เขามองกลับไปที่ร้านกาแฟอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นว่าสายตาของผู้หญิงวัยทำงานคนนั้นไม่ได้อยู่ที่หนังสืออีกแล้ว ตอนนี้สายตาของเธอจ้องกล่องแหวนสีแดงที่เปิดค้างทิ้งไว้ เธอเหลียวมองรอบๆตัวลุกขึ้นเดินมาหยิบกล่องแหวนแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง เธอมองรอบๆ อีกครั้งก่อนที่จะนำกล่องแหวนใส่ลงไปในกระเป๋าถือของเธอเองพร้อมกับรอยยิ้ม
ต้นเห็นเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด เขาคิดที่จะเข้าไปทักท้วงการกระทำของเธอครั้งนี้ แต่เขาก็คิดว่าแหวนนั่นไม่ใช่ของเขาและการที่เขาจะเข้าไปกล่าวหาเธอนั้นมันจะดูไม่เหมาะสม
ขณะที่ต้นกำลังจะตัดสินใจว่าจะทำยังไงดีนั้น เขาก็เห็นชายที่เคยโชว์แหวนให้พนักงานดู วิ่งอย่างกระหืดกระหอบกลับมา เขาคิดว่าชายคนนี้คงกลับมาเอาแหวนคืน ในที่สุดต้นก็ตัดสินใจ
หลังจากชายคนนั้นเข้าไปในร้านกาแฟ ต้นก็ก้าวตามเข้าไปอย่างเชื่อมั่น เพื่อทำในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้อง

ไม่มีความคิดเห็น: