วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2550

เรื่องสั้น - คนใต้แสงดาว

ค่ำคืนนี้ ช่างยาวนานเหลือเกิน....
หากใครไม่เคยรู้สึก ว่ายามค่ำคืนนั้น มันช่างยาวนาน... ผมจะเล่าให้ฟัง
นานแล้ว ที่ผมและเธอได้จากกัน ด้วยความรักที่เรามีนั้น เข้ากันไม่ได้ ในทุกค่ำคืนที่ผ่านไป มันช่างแสนทรมานเหลือเกิน
และนี่ก็เป็นอีกคืน ที่ผมต้องเฝ้าทนทุกข์ทรมาน หลังจากดวงตะวันลอยลับขอบฟ้าไป ความมืดเข้าคืบคลานเข้ามา พร้อมกับกลืนทุกสิ่งทุกอย่างที่รายล้อมรอบๆ ตัวผมให้หายไป เหมือนกับหัวใจดวงนี้ ที่ถูกความรักของเธอบดบังให้มืดมิด ไม่เหลือแม้แต่แสงสว่างของความหวัง ทั้งๆ ที่ยามค่ำคืนยังมีแสงสว่างของดวงดาว ให้เห็นความงามในยามค่ำคืน
ภายในห้องนี้ มีความทรงจำที่ดี ระหว่างผมและเธอ เมื่อครั้งที่เราสองยังอยู่ด้วยกัน ก่อนที่เธอต้องจากผมไป
คืนนี้มันไม่ยอมผ่านไป มันช่างยาวนานและแสนโหดร้าย
ผมได้แต่เฝ้ารอคอยของแสงตะวันยามเช้าที่แสนสดใส
ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเธอ ก็มีแต่เรื่องราวซ้ำๆ เหตุการณ์ซ้ำๆ ภาพในวันดีๆ ไม่เคยลบเลือนหายไปจากใจ มันเหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้น
ยังจำวันเวลาของผมและเธอ ที่เราต่างมีเพียงกันและกัน ความสุขนั้นช่างมากล้น เหลือเกิน
ผมพยายามทำใจไม่ให้คิดถึงเธอ ยิ่งทำเท่าไร ยิ่งปวดร้าว ยิ่งเจ็บช้ำ พยายามเริ่มต้นกับใครเพื่อให้ลืมเธอ แต่มันทำให้ผมยิ่งจมอยู่กับสิ่งที่ดี ที่เธอทำให้ผมในวันนั้น ความรู้สึกดีๆ จากคนรัก และเชื่อถือตลอดมา
ภาพความทรงจำเก่าๆ ยังติดอยู่ในใจของผม ให้รู้สึกถึงวันเวลาที่สดใส และก็เป็นภาพความทรงจำเก่าๆ นั่นเอง ที่เข้ามาทำร้ายจิตใจ ทำให้ผมลบเลือนเธอไปไม่ได้สักที

...ยิ่งข่มใจให้ลืมมัน ก็ไม่มีวันที่จะห้ามใจ...

จะทำยังไงกับคนที่รักกัน มีแต่คืนวันที่เปี่ยมด้วนความหมาย แล้วเธอก็จากไป ทิ้งไว้แค่เพียง
ภาพความทรงจำเก่าๆ ให้ฝังลึกลงไปในหัวใจ
และเธอก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกระเป๋าใบใหญ่ เธอเดินผ่านผมไป อย่างไม่สนใจใยดี ไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนของผมเธอเปิดตู้เสื้อผ้า เก็บข้าวของของเธอลงกระเป๋า
...ตู้ใบนั้น ตู้ที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดี เมื่อตอนที่เราเคยอยู่ด้วยกัน...
จบลงแล้ว ความรัก ความทรงจำที่ดี เธอกำลังจากผมไป อย่างไม่มีวันย้อนกลับมา ผมไม่อยากเห็นภาพนั้น มันช่างทำร้าย
จิตใจผมเหลือเกิน ผมทำใจให้ยอมรับไม่ได้ ที่จะเห็นภาพเธอจากไป ผมยืนขึ้น พร้อมกันนั้นเธอหยุดเก็บข้าวของ ชำเลืองมอง ผมอยากเข้าไปกอดเธอเหลือเกิน ....

‘รักเธอมาก รักเธอเหลือเกิน ฉันไม่อยากให้เธอจากฉันไป’

คำพูดภายในใจ ผมอยากให้เธอได้ยิน แต่เธอคงจะไม่รับฟัง
ค่ำคืนที่แสนโหดร้าย เมื่อใดหนอ มันจะผ่านพ้นไป
ผมอยากให้เธออยู่เพียงลำพัง เผื่อเธอจะสัมผัสถึงความทรงจำดีๆ ในห้องๆ นี้ ที่ๆเราเคยมีแค่กันและกัน
เธอเก็บของอย่างช้าๆ ภาพนี้มันช่างทรมานผมมากเหลือเกิน ใจหนึ่งอยากให้เธอรีบเก็บแล้วรีบจากผมไปเหลือเกิน
แต่อีกใจไม่อยากให้เธอจากไป อยากให้ข้าวของมีมากกว่านี้ ไม่ก็ให้เธอหยุด แล้วเปลี่ยนใจกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง...

‘กลับมาเถิดคนดี มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง’

เมื่อครั้งแรกที่เราพบกัน เธอจะจำได้หรือเปล่า ดวงตะวันทอแสงสีทองผ่านหมู่เมฆ เธอช่างดูสวยสดใสใต้ร่มเงาของหมู่แมกไม้ ผมเธอปลิวสยาย ใบหน้าเธองดงามน่าทะนุถนอม รูปร่างอันบอบบางชวนให้หลงใหล เสน่ห์เธอเย้ายานใจเป็นอันมาก
แต่ยามเธอจากผมไป กลับเป็นค่ำคืนที่มืดมน ไร้ซึ่งแสงดาว และมันเป็นค่ำคืนที่แสนเจ็บปวด และยาวนาน จนบัดนั้น ในทุกค่ำคืน ผมมักนึกถึงค่ำคืนที่เธอจากผมไป ทุกค่ำคืนช่างทรมาน เจ็บปวดรวดร้าว
เธอเก็บของเสร็จแล้ว เธอกำลังจะไปแล้ว จากไปตลอดกาล
ผมยืนขวางประตู ด้วยดวงตาที่เศร้า น้ำตาของผมพร้อมที่จะไหลได้ทุกเมื่อ
‘หมื่นแสนคำ ที่เธออยากพูดร่ำลาฉัน พูดมันออกไปเถอะ ฉันจะทนฟัง ถึงมันเจ็บปวดรวดร้าว ฉันก็จะฟัง ขอเพียงเธออยู่ตรง
นี้ สักเพียงนาที อยู่ให้ฉันคนนี้ได้จดจำภาพของเธอไว้’
เธอหันหน้าหลบสายตาผมไป พร้อมน้ำตารินไหลอาบแก้มที่แสนบอบบาง ร่างกายเธอสั่น ...

‘...รู้สึกยังไงก็บอกฉันมาเถิดคนดี คนคนนี้อย่างแบ่งเบาความเจ็บปวดของเธอ เอาความเจ็บปวดของเธอมาไว้ที่ฉันเถิด อย่าได้โศกเศร้าปานนี้เลย ขอให้ฉันเจ็บปวด เศร้าระทมทุกข์เพียงคนเดียวเถอะ หากเธออยากไปจากฉัน ก็ขอให้เธอไปด้วยความรู้สึกดีดี อย่าไปด้วยความเศร้าเสียใจ เพราะฉันจะรู้สึกว่าตัวเองเลว ที่ทำให้คนรักเสียน้ำตา...’

เธอวางกระเป๋า พร้อมทรุดกายนั่งลง เสียงร้องไห้ของเธอ ดังไปทั่วห้อง น้ำตาผมไหลอาบแก้ม ผมเสียใจ เศร้าใจ เจ็บปวดมากเหลือเกิน ที่ทำคนที่รักเสียใจมากมายขนาดนี้

‘ไปเถอะคนดี ถ้าเธออยู่นี่เธอคงเจ็บปวดหากเธอไปแล้วเธอรู้สึกดี ก็ไปเถิด ปล่อยให้ฉันเสียใจอยู่ตรงนี้อยู่ที่นี่กับความหลังอันแสนหวาน แม้ว่ามันจะทำให้ฉันเจ็บปวดสักเท่าไรก็ตาม ถ้าเธอมีความสุขในทางข้างหน้า ฉันก็ดีใจด้วย’

เธอไม่มองผมเลยแม้ว่าผมจะพูดพร่ำพรรณามากมาย หลายสิ่งหลายอย่าง ให้เธอฟัง เธอคงไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย เธอไม่เคยรับรู้ถึงการมีตัวตนของผมเลยด้วยซ้ำ

‘ทำไมเธอถึงทำร้ายฉันได้ขนาดนี้ ทั้งที่ฉันรักเธอมากมายเหลือเกิน’

เธอหยิบกรอบรูปที่มีรูปของเราของเราขึ้น เธอมองมันด้วยความอาลัยอาวรณ์ เธอจ้องที่รูปผม เธอลุกขึ้นยืน เธอปาดน้ำตาที่มันไหลอาบแก้มของเธอ แล้วมองไปรอบๆ ห้องอย่างช้าๆ เหมือนเธอกำลังมองหาอะไรสักอย่าง
เธอหยุด แล้วเปิดกระเป๋าของเธอ เธอนำกรอบรูปในมือเก็บเข้ากระเป๋า พร้อมเอ๋ยคำที่ผมปรารถนามาตลอด ความในใจที่เธอมีต่อผม ความรู้สึกที่เธอมีต่อผม เธอพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มเธอ อีกครั้ง
“เอ็ม...กอล์ฟรักเอ็มนะ”
เธอสะอื้นร่ำไห้
“เอ็มอยู่ไหน เอ็มออกมาหากอล์ฟได้มั้ย”
เธอพูดเหมือนว่า ผมไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้ ข้างกายเธอ
‘ฉันอยู่นี่ที่รัก ฉันอยู่ข้างๆเธอตลอดเวลา…’

“ถึงเอ็มจะจากไปกอล์ฟแต่เอ็มจะอยู่ในใจกอล์ฟเสมอ กอล์ฟรักเอ็มนะ”
‘ฉันไม่ได้ไปไหนฉันอยู่นี่ อยู่ข้างๆ เธอ…’

“จะไม่มีใครมาแทนที่เอ็ม เอ็มอย่าเพิ่งไปไหนนะ อยู่ข้างกอล์ฟ”
‘กอล์ฟ เอ็มอยู่นี่ อยู่ตรงนี้…’

“เอ็มรอกอล์ฟด้วย สักวัน กอล์ฟจะไปหาเอ็ม”
‘กอล์ฟ...’

ผมเพิ่งเข้าใจตอนนี้เอง ว่าทำไมยามค่ำคืนช่างแสนเศร้า และยาวนานเช่นนี้ และทำไมผมถึงเฝ้าโหยหาดวงตะวัน และเธอ
เพราะผมไม่อาจสัมผัสความอบอุ่นของแสงตะวัน และร่างกายคนที่ผมรัก ผมได้จากพวกเขาไปแล้ว อย่างไม่มีวันย้อนกลับไป ตลอดกาล...

1 ความคิดเห็น:

คนใต้แสงดาว กล่าวว่า...

เรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกที่ผมเขียน และเป็นการเขียนเพื่อระบายความรู้สึก ที่ผมเลิกกับคนที่ผมรักคนแรก ช่วยวิจารณ์ด้วยนะครับ